ซาปา (Sapa) สวิตเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม

เรื่องและภาพโดย : Pornphen  Kijcharoenwong

“xin chào” อ่านว่า ซินจ่าว แปลว่า “สวัสดี” คำนี้ดูจะคุ้นหูอยู่ไม่น้อยเมื่อได้มาเที่ยวประเทศเวียดนาม ช่วงนี้ประเทศไทยอากาศเริ่มเย็นขึ้นมาอีกหน่อยทำให้นึกถึงเมื่อครั้งที่ได้ไปทัวร์เวียดนาม ตอนนั้นจำได้เลยว่าเมืองซาปาเป็นที่แรกที่นึกอยากไปเที่ยว เห็นเขาว่าที่นี่เป็นเมืองที่เดินเล่นได้ทั้งวัน ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ‘เห็นจะจริงตามนั้น’ มาแล้วก็อดที่จะหลงรักไม่ได้จริงๆ ค่ะ กลางวันเดินเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ ป่า เขาและทุ่งนาขั้นบันได ส่วนกลางคืนเดินเดินช้อปปิ้ง นั่นแน่…อยากมาเที่ยวเวียดนามแล้วใช่มั๊ยหล่ะ

จะมาเที่ยวซาปาได้ต้องอาศัยรถโดยสารท้องถิ่นที่ใช้เดินทางระหว่างเมือง เป็นรถนอนปรับอากาศสองชั้น หรือไม่ก็รถไฟ Speed Train ที่เป็นรถนอนห้องหนึ่งมี 4 เตียง หรือ 6 เตียงแล้วแต่จะเลือก

ร้านค้าและร้านอาหาร ริมทางเดินในเมืองซาปาซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมานั่งทานกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ส่วนอาหารที่นี่ราคาก็ไม่แพงมากเรียกว่าเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีทีเดียวแหละ ส่วนร้านขายของอื่นๆ ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ยิ่งประเทศเวียดนามได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตกระเป๋า และเสื้อกันหนาวยี่ห้อดังอย่าง North Face คนส่วนใหญ่จึงนิยมมาช้อปปิ้งที่นี่…ดูดีๆ นะคะ ของแท้ก็มี ส่วนของก๊อปเกรด A หรือเกรด B คุณภาพก็ตามราคาเลยค่ะ

ซาปา” เป็นเมืองเล็กๆ ของเวียดนามเหนือตั้งอยู่ในจังหวัดลาวไก (Lao Cai) อยู่ห่างจากฮานอย 350 กิโลเมตรโดยประมาณ ปัจจุบันซาปาก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยม เพราะภูมิทัศน์ที่สวยงาม รายล้อมไปด้วยด้วยภูเขาที่ทอดยาวมาจากมณฑลยูนนานของประเทศจีนตอนใต้ ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ซาปาจึงมีทั้งทะเลสาบ น้ำตกและนาขั้นบันได และด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดปี อาจมีหิมะตกบ้างในหน้าหนาวช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ซาปาจึงได้รับสมยานามว่า สวิตเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม”

ทัศนียภาพบนยอดเขาฮัมรอง (Ham Rong Mountain) มองลงมาเบื้องล่างจะเห็นทะเลสาบขนาดใหญ่ และสวนดอกไม้นานาพรรณที่ได้จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม

โบสถ์คริสต์ ศาสนสถานที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวซาปา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมองเห็นเด่นชัด

จ๋ามทันพาสส์ (Tram Ton Pass) เป็นเส้นทางเดินรถระหว่างจังหวัดลาวไก กับจังหวัดไลโจว ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวสูงสุดในบริเวณซาปา เมื่อเดินขึ้นด้านบน (ซ้ายมือจะมีเนินเล็กๆ) จะมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน และจะเห็นถนนคดเคี้ยวไปตามริมหน้าผาเพื่อตัดลงสู่ที่ราบต่อไปจนถึงเมืองไลโจว ตรงนี้แหละที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่สูงที่สุดในเวียดนาม

หมู่บ้านชาวเขาเลาชัย (Lao Chai Village) นอกจากจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามภายในหมู่บ้านแล้ว ระหว่างทางที่เดินยังมีสินค้าพื้นเมืองให้ได้จับจ่ายใช้สอยตลอดทางอีกด้วย

หมู่บ้านชาวเขากั๊ต กั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของชาวเผ่าม้งซึ่งอพยพมาจากประเทศจีน มีเครื่องแต่งกายที่นิยมโทนสีน้ำเงินเข้มหรือดำ สามารถเดินเที่ยวชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาในหมู่บ้านแห่งนี้และชมแปลงนาข้าวแบบขั้นบันได ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา

น้องสาวคนนี้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของผู้เขียนเองค่ะ น้องจะคอยบอกว่าให้เดินระวังลื่น ตรงนั้น ตรงนี้ ตรงโน้น อยู่ตลอดเวลา…เมื่อน้องพาถึงที่หมายอย่าลืมอุดหนุนสินค้าของน้องเขานะคะ (ไม่มีการบังคับซื้อใดๆ ทั้งสิ้น)

ดูจากรูปแล้วหลายท่านอาจจะคิดว่าไกล แต่ถ้าได้ลองมาเดินแล้ว ความสดชื่น ความสวยงามและความแปลกตาจะทำให้ลืมคำว่าใกล้หรือไกลไปเลยหล่ะคะ

ขอให้สนุกกับการเที่ยวซาปานะคะ

 

 

 

ทัวร์ราคาถูก ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์เวียดนาม